เตรียมตัวจัดฟันต้องทำอะไรบ้าง ขั้นตอนไหนมีค่าใช้จ่าย ขั้นตอนไหนไม่มีค่าใช้จ่าย
เคยไหมเวลาที่เราอยากจัดฟัน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง แล้วจัดฟันแบบไหนจะเหมาะกับเรา ค่าใช้จ่ายจะเกินงบไหม สารพัดคำถามที่เรากังวลใจเกี่ยวกับการจัดฟัน ซึ่งวันนี้หมอจะมาอธิบายการเตรียมตัวก่อนการจัดฟันกันนะครับ
1. เลือกการจัดฟันที่เหมาะสมกับเรา
ก่อนอื่นเลยการเตรียมตัวจัดฟันคือ เราจำเป็นต้องสังเกตตัวเองก่อนว่าฟันของเรามีปัญหาอะไรบ้าง ทำไมถึงอยากจัดฟัน และอยากจัดฟันแบบไหน เช่น การจัดฟันเหล็ก การจัดฟันแบบใส เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้หาข้อมูลเพิ่มเติมได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เนื่องจากการจัดฟันแต่ละแบบมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น การมองเห็นอุปกรณ์จัดฟัน การทำความสะอาดฟันหลังเริ่มต้นจัดฟัน ความบ่อยในการพบหมอ ความสะดวกสบายในการจัดฟันและค่าใช้จ่าย เป็นต้น แต่ถ้านึกไม่ออกจริงๆ ว่าจัดฟันแบบไหนดี แนะนำว่าลองปรึกษาคุณหมอดูก่อน เผื่อคุณหมอจะได้แนะนำว่าเราเหมาะกับแบบไหนครับ (ส่วนใหญ่ขั้นตอนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ)
การจัดฟันใสของเซนยุม มีบริการพิเศษอีกช่องทางหนึ่ง คือเราสามารถส่งรูปฟันให้คุณหมอช่วยประเมินได้ ว่าสามารถจัดฟันใสได้หรือไม่ เพียงแค่ใช้กล้องมือถือของเราถ่ายเองได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปที่คลินิก
2. หาคลินิกจัดฟันและปรึกษาจัดฟันกับคุณหมอ
ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกคลินิกที่สะอาดได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ มีตัวอย่างเคสรีวิวการจัดฟัน การเดินทางสะดวก มีที่จอดรถเพียงพอ และ เวลาที่เราสะดวกตรงกับคุณหมอ จากนั้นจึงทำนัดเพื่อปรึกษาเรื่องจัดฟันกับคุณหมอและคุณหมอจะได้ตรวจฟันอย่างละเอียด โดยขั้นตอนนี้เราสามารถแจ้งคุณหมอได้เลยว่าเราอยากแก้ตรงไหน ตรงไหนเป็นจุดกังวลมากที่สุด เพื่อที่คุณหมอจะได้วางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด (ส่วนใหญ่ขั้นตอนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายครับ)
3. ทำประวัติการจัดฟัน และ คุยแผนการรักษากับคุณหมอ
การทำประวัติจัดฟัน คือ การเก็บข้อมูลของคนไข้ให้ได้ครบถ้วนมากที่สุด เช่น ปัญหาที่ต้องการจัดฟัน การถ่ายรูปในช่องปากและนอกช่องปาก การเอกซเรย์ฟัน และการพิมพ์ฟันหรีอสแกนฟัน (กรณีจัดฟันใสจะทำหลังจากเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว) เพื่อที่คุณหมอจะได้นำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไปวางแผนการจัดฟันอย่างละเอียดอีกทีหนึ่ง ซึ่งในขั้นตอนนี้มีค่าใช้จ่ายแล้วแต่โปรโมชั่นของคลินิก
4. เตรียมช่องปาก
การเตรียมช่องปากนั้นมีความสำคัญมาก เนื่องจากหลังจากที่เราติดอุปกรณ์หรือเริ่มจัดฟันแล้ว จะทำให้การทำความสะอาดฟันทำได้ยากขึ้น ฟันที่เคยผุมาก่อนอาจผุลุกลามได้อย่างรวดเร็ว หรือ ถ้าเคยเป็นโรคเหงือกมาก่อนก็อาจทำให้โรคเหงือกเป็นมากยิ่งขึ้น อาจจะทำให้การรักษาฟันซี่นั้นอาจจะซับซ้อนมากกว่าเดิม หรือ อาจจะถึงขั้นต้องสูญเสียฟันเลยก็ได้
การเตรียมช่องปาก คือ การรักษาเหงือกและฟันให้มีสุขภาพดีพร้อมสำหรับการจัดฟัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นการขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุดและรักษารากฟัน เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนก็มีปัญหาสุขภาพฟันแตกต่างกันออกไป ไม่จำเป็นต้องรักษาเหมือนกันทุกคน โดยคุณหมอจะเป็นคนแจ้งว่าเราควรรักษาอะไรบ้างและมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ (ในส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันนะครับ แต่ก็สามารถขอใบส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ เพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายครับ)
กรณีถ้าเป็นการจัดฟันใสนั้น ถ้าหากเตรียมช่องปากเสร็จแล้วคุณหมอก็จะทำการพิมพ์ฟันหรือสแกนฟัน เพื่อนำไปวางแผน 3 มิติ และวางแผนการผลิตอุปกรณ์จัดฟันใส เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันใสที่ดี จะต้องผลิตจากสภาพเหงือกและฟันที่ดี เพื่อทำให้การเคลื่อนฟันแม่นยำและเป็นไปตามแผนได้มากที่สุด (มีค่าใช้จ่าย) และเมื่อแผนการรักษาเสร็จแล้วคุณหมอก็จะส่งแผนการรักษาให้เราตรวจ ถ้าเราโอเคตามแผนการรักษาของคุณหมอ ก็จะเป็นการชำระเงินเพื่อสั่งผลิตอุปกรณ์ครับ มีค่าใช้จ่ายแล้วแต่โปรโมชั่นของคลินิก
5. เริ่มติดอุปกรณ์จัดฟันเหล็ก หรือ รับอุปกรณ์จัดฟันใส
หลังจากเตรียมช่องปากเสร็จแล้ว ถ้าเป็นการจัดฟันเหล็ก คุณหมอก็จะนัดติดอุปกรณ์จัดฟัน และ หลังจากนั้นก็มาพบคุณหมอทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน (มีค่าใช้จ่ายรายเดือน)
ถ้าเป็นการจัดฟันใส วันที่รับอุปกรณ์จัดฟันใส อาจจะมีการกรอแต่งฟัน (IPR) หรือ การติดปุ่มเคลื่อนฟัน (Attachment) แต่ในบางครั้งฟันที่เรียงตัวผิดตำแหน่งมาก เช่น ฟันบิด ฟันสบเปิด ฟันสบคร่อม เป็นต้นโดยลำพังอุปกรณ์จัดฟันใสเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถขยับฟันเหล่านี้ได้ 100% เนื่องจากลักษณะรูปร่างของฟันค่อนข้างเรียบและลื่น จึงอาจจะต้องมีการติดปุ่มเคลื่อนฟัน หรือที่เราเรียกกันว่า Attachment ซึ่งทำหน้าที่คล้ายเป็นมือจับบานเลื่อนหรือหน้าต่าง เพื่อให้อุปกรณ์จัดฟันใสจะได้เข้าไปล็อคบริเวณดังกล่าวและช่วยแก้ไขปัญหาที่ว่ามาได้
หลังจากที่ทางทันตแพทย์ได้ทำการสวมใส่อุปกรณ์จัดฟันใสให้แล้ว ทางคนไข้ก็สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์จัดฟันใสชุดถัดไปได้เองที่บ้าน โดยอุปกรณ์แต่ละชุดจะเปลี่ยนทุกๆ 10 วัน ตามที่คุณหมอแนะนำ ดังนั้นคุณหมออาจจะไม่ได้นัดทุกเดือน ทำให้ไม่ต้องเดินทางมาบ่อยๆ แต่การจัดฟันนั้นต้องได้รับความร่วมมือในการใส่อุปกรณ์ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เนื่องจากถ้าหากไม่ค่อยได้ใส่อุปกรณ์ ฟันก็จะไม่สามารถเคลื่อนตามแผนได้ 100% ครับ (ค่าใช้จ่ายแล้วแต่โปรโมชั่นของคลินิก)
เป็นยังไงกันบ้างครับ การจัดฟันไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไปแล้วครับ หวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีรอยยิ้มที่มีความสุขนะครับ
บทความโดย
ทพ. ธนโชติ อึ้งจิตรไพศาล
ทันตแพทย์ประจำ House of Dentists Dental Clinic
บทความโดย
ทพ. ธนโชติ อึ้งจิตรไพศาล
ทันตแพทย์ประจำ House of Dentists Dental Clinic